ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. 30) เน้น
รายเดือนภาษี โดยสามารถยื่นแบบได้ตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ของเดือนถัดไปทุกเดือน ไม่ว่ากิจการจะมีรายรับจาก
การขายสินค้าหรือให้บริการในเดือนภาษีนั้นหรือไม่ก็ตาม
ภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มนำมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
หรือขอคืนภาษีซื้อ ต้องเน้นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มหลักฐาน
หรือเอกสารสำคัญประกอบภาษีซื้อ มีดังนี้
หรือขอคืนภาษีซื้อ ต้องเน้นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มหลักฐาน
หรือเอกสารสำคัญประกอบภาษีซื้อ มีดังนี้
1.
ใบกำกับภาษี
2.
ใบเพิ่มหนี้
3.
ใบลดหนี้
4.
ใบเสร็จรับเงินที่กรมสรรพากรออกให้สำหรับการรับขำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม
5.
ใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิตออกให้ในการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อกรมสรรพากร
6.
ใบเสร็จรับเงินของส่วนราขการที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือการขายโดยวิธีอื่นนอกจากการขายทอดตลาด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือการขายโดยวิธีอื่นนอกจากการขายทอดตลาด
ใบกำกับภาษี
"ใบกำกับภาษี" (Tax Invoice) เน้นเอกสารสำคัญที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มออกให้แก่
ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใซ้บริการเมื่อขายสินค้าหรือให้บริการ และต้องส่งมอบใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือ
ผู้ใช้'บริการ,ทันที
ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใซ้บริการเมื่อขายสินค้าหรือให้บริการ และต้องส่งมอบใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือ
ผู้ใช้'บริการ,ทันที
ใบกำกับภาษีแบ่งออกเน้นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
มีฃ้อความตามนัยมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
และใบกำกับภาษีอย่างย่อ มีข้อความตามนัยมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร
และใบกำกับภาษีอย่างย่อ มีข้อความตามนัยมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร
1. ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้รับจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการ
สามารถนำภาษีซื้อที่เกิดขึ้นมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือขอคืนภาษีซื้อ เว้นแต่เน้น
ภาษีซื้อต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดจะไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
หรือขอคืนภาษีซื้อได้
สามารถนำภาษีซื้อที่เกิดขึ้นมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือขอคืนภาษีซื้อ เว้นแต่เน้น
ภาษีซื้อต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดจะไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
หรือขอคืนภาษีซื้อได้
ลักษณะใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ต้องมีข้อความตามนัยมาตรา
86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้
(1)
คำว่า "ใบกำกับภาษี" ที่เห็นได้เด่นซัด
(2)
ขื่อ ที่อยู่
และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออก
ใบกำกับภาษี
ใบกำกับภาษี
(3)
ขื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
(4)
หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่มถ้ามี
(5)
ขื่อ ขนัด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าและบริการ
(6)
จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการ
(7)
วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
(8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด บังคับใช้กับผู้ประกอบการ
ดังนี้
•
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออกใบกำกับภาษีรวมกับเอกสารทางการค้าอื่น
และ
ใบกำกับภาษีไมใช่เอกสารฉบับแรกของเอกสารขุดดังกล่าว (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับที่ 39))
ใบกำกับภาษีไมใช่เอกสารฉบับแรกของเอกสารขุดดังกล่าว (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับที่ 39))
•
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีสถานประกอบการหลายแห่งและสถาน
ประกอบการที่ใมใช่สำนักงานใหญ่นำใบกำกับภาษีของสำนักงานใหญ่ส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใช้บริการ
จะต้องมีช้อความว่า "สาขาที่ออกใบกำกับภาษีคือ" ไว้ในใบกำกับภาษี (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
ประกอบการที่ใมใช่สำนักงานใหญ่นำใบกำกับภาษีของสำนักงานใหญ่ส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้ใช้บริการ
จะต้องมีช้อความว่า "สาขาที่ออกใบกำกับภาษีคือ" ไว้ในใบกำกับภาษี (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
•
กิจการสถานบริการนํ้ามันขายนํ้ามันเชื้อเพลิงหรือสินค้า
หรือให้บริการที่เกี่ยวช้องโดยตรงกับ
รถยนต์นั่งที่ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้ระบุเลขทะเบียนรถยนต์ไว้ในใบกำกับภาษี(ประกาศ
อธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
รถยนต์นั่งที่ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ให้ระบุเลขทะเบียนรถยนต์ไว้ในใบกำกับภาษี(ประกาศ
อธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
•
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้ออกใบกำกับภาษี
เบ็เนหน่วยเงินตราต่างประเทศตามมาตรา 86/4 วรรคสองแห่งประมวลรัษฎากร ต้องระบุอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ต่างประเทศเป็นเงินตราไทยไว้ในใบกำกับภาษีด้วย (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
เบ็เนหน่วยเงินตราต่างประเทศตามมาตรา 86/4 วรรคสองแห่งประมวลรัษฎากร ต้องระบุอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ต่างประเทศเป็นเงินตราไทยไว้ในใบกำกับภาษีด้วย (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
•
กิจการขายทองรูปพรรณที่ได้คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มจากส่วนต่าง
ซึ่งคำนวณจากราคาขายรวม
กำเหน็จหักด้วยราคารับซื้อคืน ใบกำกับภาษีต้องมีช้อความตามที่กำหนด (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
กำเหน็จหักด้วยราคารับซื้อคืน ใบกำกับภาษีต้องมีช้อความตามที่กำหนด (ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 39))
ตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปต้องมีช้อความอย่างน้อยตามข้อ (1) - (7)
ส่วนข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนดให้บังคับใช้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่กล่าวมาช้างต้น ดังนั้น
หากใบกำกับภาษีมีลักษณะข้อความที่ไม่ตรงกับลักษณะของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปดังที่กล่าวมา จะไม่สามารถนำ
ภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซื้อได้
ส่วนข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนดให้บังคับใช้กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่กล่าวมาช้างต้น ดังนั้น
หากใบกำกับภาษีมีลักษณะข้อความที่ไม่ตรงกับลักษณะของใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปดังที่กล่าวมา จะไม่สามารถนำ
ภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขายหรือขอคืนภาษีซื้อได้
หมายเหตุ ะ
กฎหมายกำหนดรายการในใบกำกับภาษีของสินค้าหรือบริการบางกรณีตามมาตรา 86/5(1)
และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแตกต่างจากใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป โดยได้กำหนดรายการในใบกำกับภาษี
จากการขายสินค้าหรือให้บริการโดยการส่งออก และการบริการขนส่งระหว่างประเทศโดยอากาศยานและเรือ
เดินทะเล ให้มีรายการที่ผู้ขนส่งหรือตัวแทนรับขนส่งได้ออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ
ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 21)
และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแตกต่างจากใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป โดยได้กำหนดรายการในใบกำกับภาษี
จากการขายสินค้าหรือให้บริการโดยการส่งออก และการบริการขนส่งระหว่างประเทศโดยอากาศยานและเรือ
เดินทะเล ให้มีรายการที่ผู้ขนส่งหรือตัวแทนรับขนส่งได้ออกเป็นปกติตามประเพณีทางการค้าระหว่างประเทศ
ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 21)